ศัลยกรรมแปลงเพศ ชายเป็นหญิง โดยต่อลำไส้
ศัลยกรรมการแปลงเพศ ชายเป็นหญิง โดยใช้ลำไส้
(Sigmoid colon/Rectosigmoid Vaginoplasty/Rectosigmoid Colon)
ข้อกำหนดในการทำผ่าตัดแปลงเพศ ชายเป็นหญิง
โดยทั่วไปแล้วก่อนที่คนไข้จะตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศ จิตแพทย์จะต้องทำการทดสอบคนไข้ก่อนว่าพร้อมที่จะใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงหรือไม่ โดยการใช้ฮอร์โมนหรือการแต่งตัวเป็นผู้หญิงร่วมอย่างน้อย 6 เดือนก่อนการผ่าตัด เป็นต้น
ฮอร์โมนเพศหญิงที่จะให้กับคนไข้ได้แก่ เอสโตรเจนหรือโปรเจสเตอโรนโดยจะให้เป็น 2 เท่าของผู้หญิงทั่วไป ในขณะเดียวกันก็จะให้ยากดฮอร์โมนเพศชาย เพื่อช่วยให้รูปลักษณ์ความเป็นชายลดลงและเพื่อช่วยลดอารมณ์ทางเพศ การกดฮอร์โมนเพศชายนี้จะต้องทำอย่างต่ำ 2 ปี อย่างไรก็ตามการใช้ฮอร์โมนควรอยู่ภายใต้การวินิจฉัยของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- ผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี
- ได้ผ่านการรับรองจากจิตแพทย์เพื่อยืนยันและอนุญาตให้รับการผ่าตัดแปลงเพศ 2 ฉบับ
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดแปลงเพศ
เนื่องจาก คลินิก พีเอไอ เป็นสถาบันที่เชี่ยวชาญทางศัลยกรรมพลาสติก และการแปลงเพศที่มีความเป็นสากลตระหนักถึงจรรยาบรรณทางการแพทย์เป็นอย่างสูง ผู้ที่สนใจจะทำการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิงจึงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของ HBIGDA (the Harry Benjamin International Gender Dysphoria Association, Inc.) ตามมาตรฐานสากลก่อนเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ
ได้แก่
1. ผู้ที่จะทำการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิงต้องมีจดหมายรับรองจากนักบำบัดจิต หรือจิตแพทย์ หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางต่อมไร้ท่อ หรือแพทย์ทั่วไป
2. งดรับประทานหรือฉีดฮอร์โมนก่อนผ่าตัด 2 หรือ 4 อาทิตย์ตามลำดับ เพื่อลดโอกาสเส้นเลือดดำอุดตัน อย่างไรก็ตามการงดฮอร์โมนนี้จะต้องอยู่ภายใต้การวินิจฉัยของแพทย์อย่างเคร่งครัด
3. ตรวจร่างกายโดยละเอียด 3 อาทิตย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ โดยคนไข้จะต้องผ่านการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ได้แก่ ตรวจเม็ดเลือด HIV เกลือแร่ น้ำตาล การทำงานของตับและไต ตรวจปัสสาวะ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ เป็นต้น
นอกจากนี้แล้วผู้ที่สนใจจะทำการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิงจะต้อง
1. แจ้งอาการแพ้ยา ยาหรืออาหารเสริมที่ใช้ในปัจจุบันก่อนเข้ารับการผ่าตัดหากมีโรคประจำตัว โปรดแจ้งศัลยแพทย์ล่วงหน้า
2. งดแอสไพริน (aspirin) ไอบิวโพรเฟน (ibuprofen) และวิตามินอี ล่วงหน้า 2 อาทิตย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
3. งดสูบบุหรี่ก่อนผ่าตัด 2 อาทิตย์ และหลังผ่าตัด 4 อาทิตย์
สำหรับคนไข้ที่ติดเชื้อ HIV สามารถเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศได้ แต่จะต้องเพิ่มค่าใช้จ่าย 30 % จากปกติเนื่องจากจะต้องใช้อุปกรณ์การแพทย์เป็นส่วนตัว
หลักการในการตัดสินใจเลือกเทคนิคในการทำศัลยกรรมแปลงเพศจากชาย เป็นหญิง มี 3 แบบ : -ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ
โดยก่อนผ่าตัดผู้ที่จะทำการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิงจะต้องเข้ารับคำปรึกษาจากศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดเกี่ยวกับขั้นตอนและวิธีการโดยละเอียด เพื่อพิจารณาเลือกวิธีผ่าตัดที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับคนไข้มากที่สุด
1. แบบปกติ (Penile Skin Inversion) สร้างช่องคลอดจากผิวหนังอวัยวะเพศชาย
2. แบบ (Penile Skin Inversion + Scrotal Skin Graft) สร้างช่องคลอดจากผิวหนังอวัยวะเพศชายร่วมกับผิวของถุงอัณฑะ
3. แบบใช้ลำไส้เพื่อทำช่องคลอด (Sigmoid Colon + Penile Skin Inversion) การสร้างช่องคลอดจากผิวหนังอวัยวะเพศชายร่วมกับลำไส้ใหญ่
การเลือกว่าเทคนิคไหนเหมาะสม คนไข้สามารถตัดสินใจโดย ก่อนการแปลงเพศ ถ้าองคชาติ (ระหว่างแข็งตัว)
- ผู้ที่มีองคชาติยาว (>6 นิ้ว) = สามารถแปลงเพศแบบปกติ ซึ้งหลังทำการผ่าตัด สามารถทำช่องคลอดเทียมได้ลึกกว่า 6 นิ้ว
- ผู้ที่มีองคชาติยาวปานกลาง (2 – 6 นิ้ว) =สามารถแปลงเพศแบบปกติ ได้ โดยใช้เทคนิค Scrotal Skin graft ร่วมด้วย ซึ้งหลังทำการผ่าตัด สามารถทำช่องคลอดเทียมได้ลึกกว่า 4-6 นิ้ว
- ผู้ที่มีองคชาติสั้น (<2 นิ้ว) = แนะนำให้แปลงเพศด้วยการใช้ลำไส้ร่วมด้วย จะทำให้สามารถ สร้างช่องคลอดเทียมได้ลึกมากกว่า 6 นิ้ว
โดยสรุป
1. การแปลงเพศแบบธรรมดา หรือเรียกว่า Penile Skin Inversion and/or Scrotal Skin Graft (self- lubricate with organism) แบบนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีความยาวตามขนาดก่อนแปลงเพศ เช่น ถ้าเรามีความยาวก่อนแปลงเพศ เวลาแข็งตัวประมาณ 5-6 นิ้ว หลังทำการแปลงเพศ ความลึกของช่องคลอดของเราจะอยู่ที่ประมาณ 5-6 นิ้วเช่นกัน
2. การแปลงเพศแบบใช่ลำไส้ หรือเรียกว่า Sigmoid Colon (lubricate with organism) แบบนี้เหมาะกับผู้ที่มีความสั้นของอวัยวะเพศ แต่ต้องการเพิ่มความลึกให้กับช่องคลอดเช่น ถ้าเรามีความแข็งตัวก่อนแปลง เวลาแข็งตัวประมาณ 1-4 นิ้ว หรือน้อยกว่านี้ หลังทำการแปลงเพศโดยการทำแบบลำไส้ ความลึกของช่องคลอดของเราจะอยู่ที่ประมาณ 6.5 นิ้ว ขึ้นไป
สำหรับจุดกระสันต์ รับรู้ความรู้สึกระหว่างมีเพศสัมพันธ์
เทคนิคเดิมจะมีจุดกระสันต์ทั้งหมด 3 จุด
จุดที่ หนึ่ง ที่ ปลายอวัยวะเพศชาย ที่นำมาทำ Clitoris จุดนี้จะอยู่ด้านบนของอวัยวะเพศหญิง
จุดที่ สอง ที่เส้นปัสสาวะ
จุดที่ สามคือ ต่อมลูกหมาก
เทคนิคใหม่ของศูนย์ พีเอไอ
มีทั้งหมดอย่างน้อย 5 จุดหลัก ทุกจุดจะมีความรู้สึกถ่ายทอดกัน
จุดที่ หนึ่ง ที่ ปลายอวัยวะเพศชาย ที่นำมาทำ Clitoris จุดนี้จะอยู่ด้านบนของอวัยวะเพศหญิง
จุดที่ สอง ที่เส้นปัสสาวะ จะนำมาไว้กับช่องคลอด
จุดที่ สามคือ ต่อมลูกหมาก จะอยู่ข้างใน
จุดที่ สี่ คือ รอบนอก จะวางจุดกระสันต์เพื่อเกิดความรู้สึก เเบบ Sensitive
จุดที่ห้า คือ รอบนอก เเละระหว่างทางเข้าของช่องคลอด
ทั้งห้าจุดนี้จึงทำให้เกิดจุดกระสันต์มากกว่าเเบบก่อน
เกี่ยวกับการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง
ขั้นตอนสำคัญของการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง คือการสร้างช่องคลอดซึ่งมีทำอยู่ 3 วิธีด้วยกัน
1. การสร้างช่องคลอดจากผิวหนังอวัยวะเพศชาย ในกรณีที่คนไข้มีความยาวอวัยวะเพศมากกว่า 6 นิ้ว
2. การสร้างช่องคลอดจากผิวหนังอวัยวะเพศชายร่วมกับผิวของถุงอัณฑะ ในกรณีที่คนไข้มีความยาวอวัยวะเพศระหว่าง 2 ถึง 6 นิ้ว
3. การสร้างช่องคลอดจากผิวหนังอวัยวะเพศชายร่วมกับลำไส้ใหญ่ ในกรณีที่คนไข้มีความยาวอวัยวะเพศต่ำกว่า 2 นิ้ว หรือในกรณีที่คนไข้ต้องการให้ช่องคลอดมีความลึกมากกว่า 8 นิ้ว
ข้อดีของการสร้างช่องคลอดจากผิวหนังอวัยวะเพศชาย และสำไส้ใหญ่คือ
- ได้ช่องคลอดเทียมที่ยืดหยุ่นกว่า
- มีน้ำหล่อลื่นแท้จริง
- มีช่องคลอดที่ยาวกว่า
- ผิวสำผัสเรียบ ไม่หยาบ และไม่มีขน
ข้อเสียของการสร้างช่องคลอดจากผิวหนังอวัยวะเพศชาย และสำไส้ใหญ่คือ
- รอยแผลยาวประมาณ 1 นิ้วบางๆ
- สำไส้อาจรั่ว ซึ้งต้องกลับมาแก้ไข
- ราคาสูง
วิธีการสร้างช่องคลอดจากผิวหนังอวัยวะเพศชายร่วมกับลำไส้ใหญ่
การผ่าตัดแบ่งเป็น 9 ขั้นตอนด้วยกันคือ
1. ทำช่องระหว่างอัณฑะและทวาร เพื่อสร้างเป็นรูเปิดช่องคลอด ความลึกของช่องคลอดที่ได้จะประมาณ 4 ถึง 8 นิ้ว (ผู้หญิงทั่วไปมีช่องคลอดลึกประมาณ 4 นิ้วครึ่ง)
2. ตัดเปิดถุงอัณฑะ และตัดอัณฑะทิ้ง
3. ตัดเปิดผิวหนังอวัยวะเพศชายตามแนวยาวโดยยังคงเก็บส่วนผิวหนังของหัวองคชาติที่ห่อหุ้มเส้นประสาทไว้
4. แยกและเก็บเฉพาะท่อปัสสาวะจากแกนกลางอวัยวะเพศชายเพื่อนำมาทำเป็นผิวที่เชื่อมต่อระหว่างคลิโตริสและรูปัสสาวะ (floor of vulva)
5. ตัดเปิดผิวหนังส่วนหัวและท้ายของหัวองคชาติที่เก็บไว้ในขั้นตอนที่ 3 โดยเก็บแค่ส่วนผิวหนังตรงกลาง ผิวหนังส่วนนี้ต่อมาจะถูกนำมาทำเป็นคลิโตริสของอวัยวะเพศหญิง
6. นำลำไส้ใหญ่ประมาณ 15 ถึง 20 เซนติเมตรมาต่อกับผิวหนังของอวัยวะเพศชายจากขั้นตอนที่ 3 เพื่อบุเป็นผิวช่องคลอด
7. สร้างคลิโตริส (clitoroplasty) จากผิวหนังอวัยวะเพศชายที่เก็บไว้ตั้งแต่ขั้นตอนที่ 5 คลิโตริสใหม่ที่ได้นี้ยังคงมีเส้นประสาทครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนั้นคนไข้จะยังคงรับความรู้สึกได้เหมือนเดิมเมื่อมีเพศสัมพันธ์
8. จัดวางท่อปัสสาวะจากขั้นตอนที่ 4 ให้เป็นผิวที่เชื่อมต่อระหว่างคลิโตริสและรูปัสสาวะ ด้วยวิธีการนี้จะทำให้ได้อวัยวะเพศหญิงที่เหมือนจริง เป็นสีชมพูทั้งหมด สวยงาม วิธีการนี้แตกต่างจากที่ทำกันในต่างประเทศที่จะใช้ผิวหนังมาทำแทน ทำให้อวัยวะเพศหญิงที่ได้มีสีหมองคล้ำ ไม่สวยงาม
9. ปรับแต่งรูปร่างอวัยวะเพศหญิงให้สวยงามทั้งแคมในและแคมนอกจากผิวอวัยวะเพศชายและถุงหุ้มอัณฑะ
ผลลัพธ์สำหรับการแปลงเพศร่วมกับลำไส้ทำช่องคลอด :
ด้วยวิธีการวางท่อปัสสาวะให้เป็นผิวเชื่อมต่อระหว่างคลิโตริสกับรูปัสสาวะ จะทำให้คนไข้มีอวัยวะเพศหญิงเป็นสีชมพูโดยตลอด ซึ่งแตกต่างจากวิธีการที่ต่างประเทศทำกันที่สุดท้ายแล้วอวัยวะเพศหญิงที่ได้จะมีสีหมองคล้ำ อย่างไรก็ตามวิธีการนี้จะต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญของศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดอย่างสูง เนื่องจากท่อปัสสาวะที่ใช้มีโอกาสหดตัว ทำให้ตำแหน่งของรูปัสสาวะเคลื่อนที่ผิดตำแหน่งเมื่อเวลาผ่านไป นอกจากคนไข้จะได้อวัยวะเพศหญิงที่มีสีสันต์ รูปร่างสวยงามและเหมือนจริงแล้ว คลิโตริสที่ทำขึ้นมาใหม่ยังมีเส้นประสาทครบถ้วน ทำให้สามารถรับความรู้สึกได้ปกติเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เช่น มีน้ำหล่อลื่นแท้จริง, สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้เร็ว, ช่องคลอดมีขนาดยาว, โอกาสเกิดช่องคลอดตีบตันน้อยมาก เเละสามารถกำหนดความลึกของช่องคลอดได้มากกว่าการเเปลงเพศเเบบปกติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาด้วย
ค่ารักษา และบริการจาก PAI (รวมอยู่ในค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว)
ค่าผ่าตัด
- ห้องพักของโรงพยาบาล 5 วันหลังการผ่าตัด
- ค่าแพทย์
- ค่าปรึกษาแพทย์
- ตรวจร่างกาย
- ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์และค่ายา
- ค่าดูแลก่อนและหลังผ่าตัด
- ยาและเวชภัณฑ์
- เเท่งอคิลิคสำหรับการดูเเลหลังผ่าตัดโดยศูนย์ศัลยกรรม พีเอไอ
- การตรวจติดตามผลหลังผ่าตัด
ระยะเวลาการผ่าตัด
2 ชั่วโมงครึ่ง- 3 ชั่วโมง
ภาวะแทรกซ้อน
ภาวะแทรกซ้อนที่คนไข้มีโอกาสพบคือ มีอาการติดเชื้อ ฝีเย็บในช่องคลอดที่สร้างไว้แตก ช่องคลอดหดตัวและตื้นขึ้นเนื่องจากเกิดการดึงรั้งของบาดแผล อย่างไรก็ตามภาวะแทรกซ้อนเหล่าสามารถลดลงได้จากการที่คนไข้ปฏิบัติตามขั้นตอนการดูแลรักษาอย่างเคร่งครัดร่วมกับความชำนาญของศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด
ผลข้างเคียง
เนื่องจากคนไข้จะต้องใส่ท่อสวนปัสสาวะ จึงอาจจะทำให้รูเปิดท่อปัสสาวะบวมและปัสสาวะไม่ออกในช่วงแรกภายหลังจากถอดท่อสวนออกแล้ว อาการเหล่านี้พบเห็นได้ทั่วไปและจะหายไปเองเมื่ออาการบวมลดลง นอกจากนี้แล้วคนไข้อาจจะประสบปัญหาเลือดออกในช่วงแรกแต่อาการจะดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปแล้วประมาณ 24 ชั่วโมงหลังผ่าตัด
การรักษาพยาบาล
ศัลยแพทย์จะสอดท่อสวนปัสสาวะเพื่อป้องกันการตีบของท่อที่ทำขึ้นมาใหม่และเพื่อให้คนไข้ปัสสาวะได้สะดวกไม่กระทบกระเทือนต่อบาดแผล นอกจากนี้แล้วแพทย์จะสอดผ้าก๊อซเข้าช่องคลอดในระยะแรกเพื่อซับเลือดและป้องกันการหดตัวของช่องคลอดจากการดึงรั้งของบาดแผลที่เริ่มประสานกัน คนไข้จะต้องปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดในการดูแลบาดแผลและช่องคลอดใหม่ โดยไหมจะถูกถอดภายใน 7 ถึง 10 วันหลังผ่าตัด
ระยะเวลาพักฟื้น
คนไข้จะใช้เวลาพักฟื้นโดยประมาณ 3 ถึง 5 อาทิตย์จึงกลับไปทำงานได้ตามปกติ
ระยะเวลาพักรักษาในโรงพยาบาลหลังผ่าตัด
คนไข้จะต้องนอนที่โรงพยาบาล 5 คืนเพื่อดูผลการผ่าตัด และตรวจร่างกาย (รวมอยู่ในค่าใช้จ่าย)
การใช้ยาระงับความเจ็บปวดก่อนผ่าตัด
สามารถเลือกใช้ได้ทั้งการวางยาสลบหรือการบล็อกหลังขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศัลยแพทย์
การดูแลบาดแผล
ภายหลังจากที่ศัลยแพทย์นำผ้าก๊อซออกจากช่องคลอดแล้ว คนไข้จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับการสอดเครื่องช่วยขยายช่องคลอดอย่างเคร่งครัด การปฏิบัติเช่นนี้จะช่วยลดโอกาสที่ช่องคลอดจะหดตัวจากบาดแผลที่เริ่มประสานกัน ทำให้ช่องคลอดมีความลึกตามต้องการ ในส่วนของการทำความสะอาดบาดแผลภายนอก คนไข้จะได้รับสบู่ผสมยาฆ่าเชื้อเพื่อทำความสะอาดบาดแผลขณะอาบน้ำ ให้กดบาดแผลไว้ประมาณ 15 นาทีหากมีเลือดออกแล้วจึงใส่เบตาดีน ในส่วนของการทำความสะอาดบาดแผลภายในช่องคลอด คนไข้จะทำความสะอาดโดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ 1 ลิตร ผสมกับเบตาดีน 5 ถึง 10 ซีซี แล้วปล่อยน้ำยาฆ่าเชื้อเข้าช่องคลอดตามวิธีการที่แพทย์แนะนำ
คนไข้จะต้องใส่ผ้าอนามัยโดยเปลี่ยนวันละ 2 ถึง 3 ครั้งเนื่องจากอาจจะยังมีอาการเลือดออกอยู่ในช่วง 1 อาทิตย์แรกหลังการผ่าตัด โดยหลังจากผ่าตัดไปแล้วประมาณ 1 เดือนคนไข้จะต้องทาครีมผสมน้ำยาฆ่าเชื้อให้ทั่วภายในช่องคลอดเพื่อให้เกิดความนุ่ม ไม่หยาบกระด้าง บาดแผลภายในจะเริ่มหายดีหลังการผ่าตัดไปแล้วประมาณ 6 เดือน ในส่วนของการรับประทานฮอร์โมนเพศหญิง คนไข้สามารถกลับไปรับประทานได้หลังผ่าตัดไปแล้วประมาณ 2 เดือน อย่างไรก็ตามเนื่องจากจะต้องมีการปรับขนาดของฮอร์โมนหลังผ่าตัด คนไข้จึงต้องเข้ารับคำปรึกษาอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางต่อมไร้ท่อ
สรุปแผนการผ่าตัดแปลงเพศ (สำหรับผู้ที่พักอยู่ในกรุงเทพ)
1. ทำการนัดหมายกับศัลยแพทย์เพื่อขอรับคำปรึกษาเป็นการส่วนตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพื่อให้คนไข้เข้าใจถึงวิธีการ ผลลัพธ์ และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังผ่าตัด
2. การผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งถึง 3 ชั่วโมง
3. พักรักษาตัวเพื่อดูอาการในโรงพยาบาลเป็นเวลา 5 วัน
4. คุณสามารถออกไปทำกิจกรรมเบาๆ ได้ แพทย์จะทำการตัดไหมและตรวจเช็คโดยการแจ้งให้ทราบหลังก่อนออกจากโรงพยาบาล
หมายกำหนดในการผ่าตัดแปลงเพศ (สำหรับท่านที่อยู่ต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ)
วันที่ 1 : เดินทางถึงกรุงเทพฯ
วันที่ 2 : ปรึกษาศัลยแพทย์โดยตรง และศัลยแพทย์จะแนะนำให้พบจิตแพทย์ในกรณีที่จำเป็น พร้อมตรวจสอบเอกสาร และเจ้าหน้าที่อธิบายรายละเอียดขั้นตอนการรักษาพยาบาลหลังผ่าตัด (แพทย์จะให้คุณทานยาฆ่าเชื้อเพื่อทำความสะอาดลำไส้ 1 วัน ในกรณีที่ทำการแปลงเพศโดยลำไส้)
วันที่ 3 : เข้าพักในโรงพยาบาลตอนเช้า พร้อมตรวจร่างกาย และทำการผ่าตัดในตอนเย็น
: พยาบาลจะพาคุณไปอาบน้ำและทำความสะอาดรูทวาร
: แพทย์จะจัดช่วงเวลาในการผ่าตัดและแจ้งให้คุณทราบ รวมทั้งเตรียมให้ยาสลบเพื่อรอการผ่าตัด
วันที่ 3 – 7 : หลังการผ่าตัดคุณจะพักฟื้นที่โรงพยาบาลห้องส่วนตัว เป็นเวลา 5 วัน
วันที่ 7 : แพทย์ทำการถอดผ้าปิดแผลและท่อปัสสาวะออก และสามารถเริ่มรับประทานอาหารอ่อนๆ ได้
: คุณสามารถออกจากโรงพยาบาลได้หลังจากผ่าตัด 5 วัน
วันที่ 7 – 11 : เดินทางกลับบ้าน เพื่อพักผ่อน หรือพักที่โรงแรม
วันที่ 12-14 : คุณสามารถออกไปทำกิจกรรมเบาๆ ได้ แพทย์จะทำการตัดไหมและตรวจเช็คครั้งสุดท้าย
วันที่ 15 : ส่งคุณกลับบ้านอย่างปลอดภัยที่สนามบินสุวรรณภูมิ
การนัดผ่าตัด
โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ของ PAI เพื่อสอบถามราคาและกรอกแบบฟอร์มเข้าปรึกษาหรือรับการผ่าตัด เจ้าหน้าที่จะทำการนัดหมายกับศัลยแพทย์เพื่อให้คำปรึกษาท่าน
หรือ โทรศัพท์ 02-715-0111
———————————————————
คำถามที่สอบถามกันมามาก :
คำถาม ดิฉันมีความต้องการจะเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง ในช่วงปลายปี 2555 หรือ ต้นปี 2556 (ค่าใช้จ่ายพร้อมในช่วงนั้น) ดิฉันต้องเริ่มต้นยังไงบ้างค่ะ โดยมีข้อมูลจำเพาะดังนี้ค่ะ
1) ดิฉันมีอายุ 40 ปี
2) กินยาคุมยี่ห้อไดแอน เป็นเวลา 19 ปี (ตั้งแต่อายุ 21 ปี ) ตอนนี้ใช้โปรกีโนว่าวันละ 1 เม็ด แอนโดรคัวร์ 1/4 เม็ด วันเว้นวัน(เฉลี่ย สัปดาห์ละ 1 เม็ด) และฉีดโปกินินและโปลูตรอน อาทิตย์ละครั้ง เป็นเวลา 2 เดือนแล้ว
3) ใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงมาเป็นเวลา 18 ปี มีลักษณะคล้ายผู้หญิงแต่ไม่ถึงกับสวยเหมือนกับรุ่นน้อง ๆ หรือรุ่นหลาน ๆ ในสมัยนี้ เพราะยังมีโครงร่างใหญ่ แขน ขาอวบใหญ่ ยังคงมีขนหน้าแข้ง ขนรักแร้ เคราขึ้นบ้างเล็กน้อย 5-6 เส้น ใช้วิธีกำจัดโดย โกนขนหน้าแข้ง และถอนในส่วนที่มีน้อย ๆ
4) อวัยวะเพศชายขณะแข็งตัว ประมาณ 3-4 นิ้ว ไม่เคยผ่านการร่วมกับผู้หญิงเลย ปลายเลยยังไม่เปิด
ขอสอบถาม ดังนี้ค่ะ
1) ดิฉันต้องเข้าไปปรึกษาแพทย์จาก PAI ตั้งแต่เมื่อไหร่ ค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งต้องใช้จ่ายเท่าไหร่
2) การขอใบรับรองจากจิตแพทย์ได้ที่ไหนบ้างค่ะ
3) ดิฉันต้องใช้วิธีการผ่าตัดแบบไหนค่ะ
4) ค่าใช้จ่ายดิฉันต้องใช้จ่ายเท่าไหร่เบ็ดเสร็จเพราะจยื่นกู้เงินเพื่อใช้ในการผ่าตัด
5) ใช้เวลาในการผ่าตัดและรักษาตัวทั้งหมดกี่วันรวมตั้งแต่ผ่าตัดและรักษาตัวหลังออกจากโรงพยาบาล เพราะต้องยื่นวันลากับสถานที่ทำงาน
ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
ตอบคำถาม : จากอ่านข้อมูลของคุณหมอแน่ใจว่าสามารถทำการผ่าตัดแปลงเพศได้ครับ หมอจึงแนะนำให้เข้ามาปรึกษาหมอโดยตรงเพื่อที่จะได้ทราบถึงขั้นตอนในการผ่าตัด และเตรียมตัวก่อนการทำผ่าตัดครับ (ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการปรึกษา) ส่วนการขอใบรับรองจิตแพทย์หมอจะส่งเรื่องต่อไปให้ครับ ค่าใช้จ่ายในการปรึกษาจิตแพทย์ประมาณ 1,500 บาทครับ ชำระกับทางโรงพยาบาลโดยตรง
การผ่าตัดมี สองวิธีหลักที่ทำกันอยู่ครับ
แบบที่หนึ่งคือ การทำศัลยกรรมแปลงเพศแบบปกติที่ทำกันคือ ถ้าอวัยวะเพศตอนแข็งตัวประมาณ 4 นิ้ว หลังจากทำศัลยกรรมแปลงเพศแล้วจะมีช่องคลอดเทียมอยู่ที่ความลึก 5 นิ้วครับ
แบบที่สองคือ การทำศัลยกรรมแปลงเพศแบบใช้ลำไส้ร่วมด้วยกับแบบที่หนึ่ง การทำศัลยกรรมแปลงเพศแบบที่สองนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีความประสงค์อยากจะมีช่องคลอดเทียมลึกอย่างน้อย 6.5 นิ้วครับ หรือผู้ที่มีอวัยวะเพศที่แข็งตัวน้อยกว่า 4 นิ้วก่อนทำศัลยกรรมผ่าตัดแปลงเพศ
โดยสรุปแล้วผู้ที่จะทำศัลยกรรมแปลงเพศคงต้องวางแผนล่วงหน้าให้กับตนเองว่าคุณอยากมีช่องคลอดเทียมลึกประมาณเท่าไร เพราะบางท่านมีแฟนที่มีอวัยวะเพศยาวมากจึงทำศัลยกรรมแบบที่สองไปเลยครับ
ค่าใช้จ่ายในการแปลงเพศจะคิดแบบเหมาจ่ายครับ คือรวมนอนโรงพยาบาล 5 คืน, ค่ายา, ค่าผ่าตัด, ค่าตรวจร่างกาย และอื่นๆแล้วครับ
รวมการรักษาตัว และพักฟื้นประมาณ 14 วันหลังการทำครับจึงกลับไปทำงานได้ครับ
คำถาม : ดิฉันขลิบปลายอวัยเพศค่ะ(เหมือนชายมุสลิมที่ขลิบปลายอวัยวะเพศ) ไม่ทราบว่าจะได้ความลึกของช่องคลอดยาวกี่นิ้วคะ ตอนอวัยวะเพศแข็งตัวก็ประมาณ 4 นิ้วค่ะ
ตอบคำถาม : เรื่องการขลิบปลายอวัยวะเพศส่วนใหญ่จะไม่มีผลอะไรเกี่ยวกับการทำให้ลึกครับ การทำช่องคลอดเทียมส่วนใหญ่จะประเมินว่าสมมุติอวัยวะเพศแข็งตัวประมาณ 4 นิ้ว ถ้าทำแปลงเพศแบบใช้หนังอวัยวะเพศ (Penile Skin Inversion) หรือการแปลงเพศแบบใช้หนังอวัยวะเพศร่วมกับหนังอัณฑะ (Penile Skin Inversion & Skin Graft) ความลึกของช่องคลอดเทียมจะอยู่ที่ประมาณ 5-5.5 นิ้วโดยประมาณ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับการดูแลหลังผ่าตัดของคนไข้ด้วย เช่นการรักษาช่องคลอดเทียมโดยการใช้แท่งแก้วสำหรับออกแบบโดยเฉพาะในการดูแลหลังผ่าตัดอย่างน้อย 6 เดือน ส่วนการทำช่องคลอดเทียมด้วยการต่อลำไส้ร่วมกับหนังอวัยวะเพศเรียกว่า Sigmoid Colon เทคนิคนี้เหมาะกับผู้ที่มีความประสงค์ให้ช่องคลอดมีความลึกอย่างน้อย 6.5 นิ้ว ผู้ที่เหมาะกับการทำแบบ Sigmoid Colon คือ อวัยวะเพศเวลาแข็งตัวน้อยกว่า 4 นิ้ว และผู้ที่มีความประสงค์อยากให้มีช่องคลอดให้ได้ความลึกมาก และเหมาะกับผู้ทีมีสามีที่มีอวัยวะเพศยาว (พวกที่มีแฟนเป็นชาวยุโรป หรืออเมริกา)
ส่วนการแปลงเพศชายเป็นหญิงแบบใช้หนังต้นขา หรือหน้าท้องเข้าร่วมด้วยนั้นจะไม่แนะนำเนื่องจากรอยแผลเป็น และไม่เป็นธรรมชาติ
คำถาม : การขลิบปลายอวัยวะเพศจะมีผลต่อความรู้สึกทางเพศไหมคะถ้าหลังจากทำช่องคลอดเทียมแล้ว(กลัวจะสูญเสียความรู้สึกทางเพศ)
ตอบคำถาม : การขลิปปลายอวัยวะเพศไม่มีผลที่จะทำให้ความรู้สึกทางเพศ (orgasm) ลดน้อยลง แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับเทคนิกความสามารถของแพทย์ที่ทำการผ่าตัดแปลงเพศ
คำถาม : การทำช่องคลอดเทียมแบบ colon จะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ตอนขณะร่วมเพศหรือไม่คะ และจะมีผลต่อลำไส้ของเราอย่างไรในอนาคต(ดิฉันไม่กังวลเรื่องสีชมพูหรือผิวจะหยาบจะนุ่มของช่องคลอดเทียมนะคะแต่กังวลเรื่องมะเร็งหรือโรคแทรกซ้อนตามมาภายหลังค่ะ)
ตอบ : การทำผ่าตัดทุกชนิดในช่วงรักษาตัว หรือพักฟื้นอาจจะมีกลิ่นบ้างเนื่องจากเลือดที่สะสมอยู่ภายใน, การปรับตัวของร่างกาย แต่จะไม่มีกลิ่นหลังจาก 3 เดือนไปแล้ว จากการวิจัย และศึกษาการทำผ่าตัดแปลงเพศแบบต่อสำไส้ร่วมกับองค์กรแพทย์แปลงเพศนานาชาติ (WPAT) การทำผ่าตัดแปลงเพศแบบต่อลำไส้ไม่มีผลจะมีกลิ่นเหม็นในขณะร่วมเพศ หรือก่อให้เกิดมะเร็ง, ผิวช่องคลอดหยาบ หรือโรคแทรกซ้อนเกี่ยวกับการแปลงเพศ
คำถาม : แฟนของดิฉันมีอวัยวะเพศที่ยาวพอสมควร กังวลเรื่องความลึกของข่องคลอดเทียม(กลัวเจ็บในกรณีที่ช่องคลอดเทียมตื้นหรือตีบตัว)
ตอบคำถาม : แนะนำแปลงเพศแบบต่อลำไส้ครับ เพราะจากประสบการณ์ 30 ปีในการแปลงเพศมักจะมีการกลับมาทำแปลงเพศแบบต่อลำไส้อีกครั้ง เนื่องจากแฟนมีอวัยวะเพศที่ยาวมาก ส่วนความใหญ่ไม่เป็นปัญหาของการแปลงเพศแบบใช้หนังอวัยวะหรือแบบต่อลำไส้ครับ
คำถาม : ถ้าดิฉันทำประกันสุขภาพ ดิฉันสามารถเคลมเรื่องค่าห้องหรือค่าอื่นๆได้ไหมคะ
ตอบคำถาม : การผ่าตัดแปลงเพศไม่สามารถนำมาแคลมประกันได้ครับ แต่ต่างชาติสามารถทำได้ครับ เนื่องจากกฏหมายให้การยอมรับการแปลงเพศเป็นโรคชนิดหนึ่งที่จำเป็นต้องรักษาครับ
คำถาม : สวัสดีค่ะทีมแพทย์ พีเอไอ
หนูอายุ 33 ปี ผ่าตัดแปลงเพศเมื่อปี 2549 เป็นระยะเวลา 6 ปี ตอนนี้มีปัญหามากคือ ตอนนี้มีแฟนเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งมีขนาดอวัยวะเพศที่ยาวกว่าช่องคลอดที่หนู ทำให้การมี sex เป็นไปอย่างที่ไม่ความสุขเท่าที่เลยคะและหนูกลัวจะมีปัญหาชีวิตคู่คะ ไม่รู้ว่าจะเจอคนที่ดีอีกหรือไม่ บอกครงๆ ว่ากลุ้มมากคะ เพราะชาวต่างชาติ จะให้ความสำคัญในเรื่อง sex มากเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยขนาดที่ใหญ่ ทำให้หนูทรมานและไม่เคยมีความสุข และ orgasm เหมือนตอนที่มีแฟนคนไทยที่มีขนาดเล็กกว่าเลยคะ ตอนนี้หนูวัดช่องคลอดได้ 4.5 ” ค่ะ (ส่วนแฟนประมาณ 8″) ซึ่งตอนแรกที่ผ่ามาลึกมากคะ 6.5 ” และพอหลังผ่าตัดหนูไม่ได้มีการร่วมเพศมาเป็นปี ช่องคลอดเลยตื้นขึ่นเรื่อย ขนาดหนูเป็นคนที่สวนแท่งแก้วตลอดนะคะ
ขอเรียนสอบถามทางคณะแพทย์ ค่ะ
1. ราคาในการผ่าตัดต่อลำไส้
2. การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด
3. ผลข้างเคียง และความเสี่ยง ภายหลังการผ่าตัด
4. ระยะเวลาการพีกฟิ้นที่โรงพยาบาล
5. หลังการผ่าตัดต้อง สอดแท่งแก้วอีกหรือไม่ (เพราะเบื่อและทรมานมากค่ะ)
6. จากประวัติการรักษาได้ผลน่าพึงพอใจมากน้อยแค่ไหนค่ะ
7. จะมีผลต่อการ Orgasm ไหมคะ
ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ
ตอบคำถาม : ขอตอบคำถามเลยนะครับ
1. ราคาในการผ่าตัดเเปลงพศเเบบต่อลำไส้ = รบกวนโทรนัดเพื่อขอคำปรึกษาจากทีมเเพทย์พีเอไอก่อนนะครับ (รวมนอนโรงพยาบาล 5 คืน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ)
2. การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด = ต้องมาปรึกษาก่อนนะครับ และแพทย์จะให้รายละอียดครับ หลังปรึกษาแล้วสามารถทำการผ่าตัดได้ภายใน 3-4 วันครับ
3. ผลข้างเคียง และความเสี่ยง ภายหลังการผ่าตัด = ความปลอดภัยค่อนข้างสูงมากครับ โดยมากจะมักถ่ายไม่ออกประมาณ 3-5 วันหลังผ่าตัด เนื่องจากฤทธิ์ของยา และจะปกติภายในหนึ่งสัปดาห์ครับ ส่วนรอยแผลจะมีประมาณ 1 นิ้วแนวนอนที่ใต้กางเกงใน bikini line แต่จะเบาบางหลัง 6 เดือนขึ้นไป
4. ระยะเวลาการพีกฟิ้นที่โรงพยาบาล = ห้าวันพักที่โรงพยาบาล และอีก สิบวันที่บ้าน ระหว่างพักที่บ้าน แพทย์จะนัดวันมาตรวจครับ
5. หลังการผ่าตัดต้องสอดแท่งแก้วอีกหรือไม่ (เพราะเบื่อและทรมานมากค่ะ) = หลังผ่าตัดแปลงเพศภายใน 8 เดือนจำเป็นต้องสอดแท่งแก้วอย่างน้อย 15 นาทีก่อนนอนครับ เพื่อจะให้ผิวหนังช่องคลอดไม่ตันครับ แต่ถ้าหลังผ่าตัด 5 เดือนไปแล้วถ้ามีเพศสัมพันธ์ระหว่างวันนั้นก็ไม่ต้องสอดแท่งแก้วครับ หลังหนึ่งปีไปแล้วถ้าอาทิตย์นั้นมีเพศสัมพันธ์ก็ไม่ต้องสอดแท่งแก้วในอาทิตย์นั้นเลยครับ เพราะฉะนั้นแท่งแก้วจะมี สามขนาดจากเล็กไปใหญ่ครับ
6. จากประวัติการรักษาได้ผลน่าพึงพอใจมากน้อยแค่ไหนค่ะ = พึงพอใจครับ
7. จะมีผลต่อการ Orgasm ไหมคะ = จะมีความรู้สึก orgasm เหมือนการเเปลงเพศเเบบปกติครับ เเต่การเเปลงเพศเเบบต่อลำไส้ร่วมด้วยนั้นจะมีน้ำหล่อลื่นระหว่างร่วมเพศด้วยครับ จึงไม่จำเป็นต้องใช้เจลหล่อลื่นก่อนร่วมเพศ
อ้างอิงจากhttp://pai.co.th/srs-sigmoid-colon-2-2/